บังคับให้กรอกตำแหน่ง GPS: ตั้งค่าให้ร้านค้าระบุพิกัดอย่างแม่นยำด้วย Google Maps API Key
ฟีเจอร์ “บังคับให้กรอกตำแหน่ง GPS” ช่วยให้ร้านค้าสามารถเก็บตำแหน่งพิกัดจากลูกค้าหรือแอดมินได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะสำหรับร้านที่ต้องใช้ระบบขนส่งแบบเรียลไทม์ เช่น Lalamove, Deliveree หรือระบบขนส่งภายในของบริษัทเอง
เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและเสถียรภาพในการใช้งาน BentoWeb จะให้ร้านค้าตั้งค่า Google Maps API Key ของตนเองก่อนเปิดใช้ฟีเจอร์นี้
ทำไมเราอยากให้คุณสนใจ
💼 ประโยชน์ต่อร้านค้า
- ป้องกันข้อมูลพิกัดผิดพลาด ทำให้ขนส่งไปยังจุดหมายได้ถูกต้อง
- รองรับการใช้งานร่วมกับระบบขนส่งที่ต้องการพิกัด GPS โดยตรง
- เพิ่มความปลอดภัย ไม่ต้องพึ่ง API Key ส่วนกลางของ BentoWeb
- สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและตรวจสอบการใช้งานจากบัญชี Google ของคุณเอง
🧭 ประโยชน์ต่อลูกค้า
- ลูกค้าสามารถปักหมุดตำแหน่งจัดส่งได้ง่ายและแม่นยำ
- ลดโอกาสที่ขนส่งมาผิดที่ หรือจัดส่งล่าช้า
- ช่วยให้ประสบการณ์การสั่งซื้อราบรื่นยิ่งขึ้น
ทำไมคุณควรเริ่มเปิดใช้ฟีเจอร์ตอนนี้
ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2025 เป็นต้นไป BentoWeb จะเปิดใช้งานฟีเจอร์ “บังคับให้กรอกตำแหน่ง GPS” เฉพาะร้านค้าที่ได้เพิ่ม Google Maps API Key แล้วเท่านั้น
การตั้งค่าล่วงหน้าจะช่วยให้ร้านของคุณพร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่องโดยไม่กระทบต่อขั้นตอนสั่งซื้อหรือการจัดส่ง
Step by Step: วิธีตั้งค่า Google Maps API Key และเปิดใช้ฟีเจอร์
🔹 ขั้นตอนที่ 1: สร้าง Project ใหม่ (Create New Project)
- เข้าสู่ระบบ Google Cloud Console ที่ https://console.cloud.google.com/
- คลิกเมนูด้านบนขวา (โลโก้ Project) > New Project
- ตั้งชื่อ Project และกด Create
🔹 ขั้นตอนที่ 2: เปิดใช้งานบริการที่จำเป็น (Enable APIs & Services)
- ไปที่เมนู APIs & Services > Enabled APIs & services
- คลิกปุ่ม + ENABLE APIS & SERVICES ที่ด้านบน
- ค้นหาและเปิดใช้งาน API ต่อไปนี้:
- Maps JavaScript API → คลิก Enable
- Places API → คลิก Enable
💡 หมายเหตุ: ฟีเจอร์ “บังคับให้กรอกตำแหน่ง GPS” ต้องใช้ทั้งสอง API เพื่อให้ระบบสามารถแสดงแผนที่และให้ลูกค้าปักหมุดตำแหน่งได้อย่างถูกต้อง
💡 แนะนำเพิ่มเติม: เพื่อความปลอดภัย ควรจำกัดการใช้งาน API Key ของคุณเฉพาะโดเมนร้าน
หากคุณใช้โดเมน yourstore.com คุณควรตั้งการจำกัดเป็น*.yourstore.com/*
หากคุณใช้ Sub domain ของ BentoWeb เช่น https://yourstore.bentoweb.com/ คุณควรตั้งการจำกัดเป็นyourstore.bentoweb.com/*
🔹 ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าความปลอดภัยของ API Key (Configure Key Restriction)
- ไปที่เมนู APIs & Services > Credentials
- ทำการแก้ไข API Key ที่ระบบสร้างให้อัตโนมัติ โดยกด ไปที่ Edit API Key
- ในส่วน API restriction ให้ทำเครื่องหมายที่ Maps Javascript API และ Places API
- แล้วกด Save
🔹 ขั้นตอนที่ 4: เปิด Billing Account (บัญชีเรียกเก็บเงิน)
เพื่อให้ Google Maps API สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง Google จะขอให้คุณเปิดบัญชีเรียกเก็บเงิน (Billing Account) สำหรับ Project ที่ใช้ API Key ของคุณ
1. ไปที่เมนู Billing
ในหน้า Google Cloud Console
เลือกเมนู Billing จากแถบด้านซ้าย
2. สร้าง Billing Account ใหม่
หากคุณยังไม่มีบัญชีเรียกเก็บเงิน ให้คลิก
“Add billing account” → “Create billing account”
- กรอกชื่อบัญชีและข้อมูลการติดต่อ
- เลือกประเทศให้ตรงกับประเทศที่คุณเปิดใช้งานร้านค้า (เช่น Thailand)
- ใส่ข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่สามารถใช้จ่ายออนไลน์ได้
⚠️ หมายเหตุสำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทย:
Google อาจแสดงข้อความ
“Your service requires a one-time prepayment of at least THB 400.00 to become active.”
นั่นหมายถึง Google ต้องการให้คุณชำระเงินล่วงหน้าอย่างน้อย 400 บาท เพื่อเปิดใช้งานบัญชี Billing
ยอดนี้ ไม่ใช่ค่าธรรมเนียม แต่จะถูกเพิ่มเป็นเครดิตในบัญชีของคุณ หลังจากชำระแล้ว บัญชีจะเปิดใช้งานภายในไม่กี่นาที
3. เชื่อม Billing Account เข้ากับ Project
หลังจากสร้าง Billing Account แล้ว:
- ไปที่หน้า Project ของคุณ
- คลิกเมนู “Link a billing account”
- เลือกบัญชีที่เพิ่งสร้าง แล้วกด Set Account
✅ ตรวจสอบเครดิตและโควตาฟรี
- Google Maps Platform มี Free Usage Tier สำหรับแต่ละ API ซึ่งให้ปริมาณการใช้งานฟรีในแต่ละเดือน
- เช่น บริการ Maps JavaScript API และ Places API จะมีจำนวนครั้งการเรียกใช้งาน (API calls) ที่ฟรีต่อเดือน
- เมื่อใช้งานครบโควตาฟรี ระบบจะเริ่มคิดค่าบริการตามอัตราที่ Google กำหนด
- คุณสามารถดูโควตาฟรีและอัตราค่าบริการล่าสุดได้ที่
Google Maps Platform Pricing Overview
🔹 ขั้นตอนที่ 5: เพิ่ม API Key ใน BentoWeb
- ไปที่ ตั้งค่าร้านค้า > ข้อมูลร้าน > Plugin
- วาง API Key ที่ช่อง Google Maps API Key
- กด บันทึก
🔹 ขั้นตอนที่ 6: เปิดใช้ฟีเจอร์ “บังคับให้กรอกตำแหน่ง GPS”
- ไปที่ ตั้งค่าร้านค้า > ข้อมูลร้าน > นโยบาย
- ติ๊กที่ช่อง บังคับให้กรอกตำแหน่ง GPS
- หากยังไม่ได้เพิ่ม API Key ระบบจะแสดงข้อความ:
> “เพื่อเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ โปรดเพิ่ม Google Maps API Key ของคุณก่อน ในหน้า ตั้งค่าร้านค้า > ข้อมูลร้าน > Plugin”
- หลังจากเพิ่มแล้ว ระบบจะเปิดใช้งานได้ทันที
แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด
- ตรวจสอบว่า API Key ของคุณถูกจำกัดการใช้งานเฉพาะโดเมนของร้าน (เช่น
https://www.yourstore.com/*
) - อย่าแชร์ API Key กับบุคคลอื่น
- ตั้งค่า Budget Alert ใน Google Cloud Console เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย
- หากร้านมีหลายโดเมน (เช่น .com และ .co.th) อย่าลืมเพิ่มทั้งคู่ในรายการอนุญาต (HTTP referrers)
- ตรวจสอบปริมาณการใช้งาน API ของคุณในแต่ละเดือน เพื่อไม่ให้เกินโควตาฟรีโดยไม่ตั้งใจ
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Q: ถ้าไม่เพิ่ม API Key จะเกิดอะไรขึ้น?
A: ฟีเจอร์ “บังคับให้กรอกตำแหน่ง GPS” จะไม่สามารถเปิดใช้งานได้ จนกว่าจะเพิ่ม Google Maps API Key ในหน้า Plugin
Q: ใช้ API Key เดียวกับฟีเจอร์อื่นในเว็บได้ไหม?
A: ได้ คุณสามารถใช้ API Key เดียวกับระบบอื่นที่ใช้ Google Maps อยู่แล้ว เช่น หน้าร้านหรือระบบจัดส่งของคุณ
Q: มีค่าใช้จ่ายไหมถ้าใช้งานไม่เกินโควตาฟรี?
A: ไม่มีค่าใช้จ่ายตราบใดที่การใช้งานของคุณยังอยู่ภายใต้โควตาฟรีที่ Google กำหนดสำหรับแต่ละ API
✅ เริ่มต้นเลยวันนี้
ตั้งค่า Google Maps API Key เพื่อให้ลูกค้าหรือแอดมินของคุณสามารถปักหมุดพิกัดได้แม่นยำ
ไปที่ ตั้งค่าร้านค้า > ข้อมูลร้าน > Plugin เพื่อเพิ่มคีย์ของคุณ
อัปเดตเมื่อ: 21/10/2025
ขอบคุณ!