Events บนเว็บไซต์หน้าร้านของ BentoWeb
รู้จัก Events และการนำไปใช้งาน
Event คือ คือ เหตุการณ์หรือพฤติกรรมของลูกค้าที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ของเรา เช่น การ click ไปที่ปุ่มใดปุ่มหนึ่ง, การเพิ่มสินค้าลงตะกร้า, หรือการระบุที่อยู่จัดส่ง ก็ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ของเราใช่ไหมครับ? ในปัจจุบัน Platform ต่าง ๆ ที่ให้บริการลงโฆษณาไปหาผู้ใช้ของเค้า เช่น Google, TikTok, LINE, หรือ Facebook ก็มีเครื่องมือให้เราใช้ในการติดตาม (Track) พฤติกรรมของผู้ใช้งานเว็บไซต์ของเรา เพื่อให้เจ้าของร้านอย่างเราสามารถลงโฆษณา / ส่ง Message ที่เกี่ยวข้อง (Relevant) กับลูกค้าของเราโดยใช้พฤติกรรมของลูกค้าเอง เพื่อให้โฆษณาบน Platform ของพวกเค้ามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ... และ Facebook เองก็เช่นกัน
Facebook มีเครื่องมือที่หลากหลาย ที่ช่วยให้เจ้าของร้านอย่างเราสามารถใช้พฤติกรรมของลูกค้ามาสร้างโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ และ Facebook Pixel เองก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือนั้นที่สามารถใช้ Track พฤติกรรมของลูกค้าที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ โดยเราสามารถเอาพฤติกรรมของลูกค้าไปทำประโยชน์ได้หลายอย่างนะครับ อาทิเช่น:
เลือกลงโฆษณาแบบ Conversion - เพื่อให้ Facebook นำส่งโฆษณาของเราไปยังคนที่น่าจะสั่งซื้อ (Purchase) สินค้าบนเว็บไซต์
วัดประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา - โดยดูว่าแคมเปญโฆษณาไหนสร้างผลลัพท์ที่เราต้องการได้ดีกว่ากัน
สร้างโฆษณาแบบ Dynamic ads ตามหลอกหลอนลูกค้า - เวลาที่ลูกค้าเข้ามาดู หรือเพิ่มสินค้าลงตะกร้าแล้วยังไม่ซื้อซะที เราก็นำส่งโฆษณาไปตามให้เค้ากลับมาสั่งซื้อได้
สื่อสารกลับไปยังลูกค้าที่เคยเข้าเว็บไซต์ของเรา โดยการสร้าง Custom audience ที่ระบุกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมที่เราให้ความสนใจ เช่น ลูกค้าที่เคยซื้อสินค้า A ไปเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว
จะเห็นว่า Events มีบทบาทสำคัญมาก ๆ นะครับ หากคุณต้องการลงโฆษณาบน Facebook ให้มีประสิทธิภาพ เพราะการแข็งขันในตลาด E-commerce ทุกวันนี้ เราแข่งขันกันที่ใครจะรู้จักลูกค้าและใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีได้มากกว่ากัน
Events ที่ BentoWeb เตรียมไว้ให้บนเว็บไซต์หน้าร้านของคุณ
เมื่อข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า คือ ความได้เปรียบ ... BentoWeb จึงเตรียมหลากหลาย Events ที่พร้อมจับทุก ๆ พฤติกรรมของลูกค้าบนเว็บไซต์ และข้อมูลออเดอร์จากทุกช่องทางขายเพื่อนำส่งไปยัง Facebook เพื่อให้ร้านของคุณสามารถชิงความได้เปรียบเหนือคู่แข่งได้ทันที
ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง? ง่ายมาก ๆ ครับ BentoWeb มัดรวมทุกอย่างที่คุณควรต้องทำไว้ให้แล้ว เพียงติดตั้ง Facebook Business Extension 2 จากระบบหลังบ้าน พวกเราจะช่วยสร้าง Product catalog, ติดตั้ง Facebook Pixel, เชื่อมต่อ Ad Account, สร้าง Custom Audience โดยใช้ Model RFM จากข้อมูลออเดอร์ในร้าน, และเตรียมการเชื่อมต่อเข้ากับ Facebook Shop และ Instagram Shopping ให้ด้วย
ตารางด้านล่าง สรุป Events ทั้ง 20 ประเภทที่พวกเราเตรียมไว้ให้ พร้อมระบุรายละเอียดการติดตาม, ประเภท Events ที่นำส่งในแต่ละหน้า, Custom Parameters, และไอเดียการสร้าง Custom Audiences สำหรับ Events แต่ละตัวครับ และอยากเรียนแนะนำว่า Events เป็นตัวสำคัญที่ไว้ดักจับพฤติกรรมลูกค้า แต่ Custom Parameters ที่เราส่งไปพร้อมกับ Events แต่ละตัวสำคัญมากกว่า เพราะมันสามารถช่วยให้ทุกท่านกรองเอาเฉพาะลูกค้าที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจของทุกท่านเพื่อทำการสื่อสารกลับ หรือ Retarget ต่อได้ ... พวกเรามั่นใจมาก ๆ ครับว่า จำนวนข้อมูลที่เราเตรียมไว้ให้จะสามารถสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งให้กับธุรกิจของคุณได้แน่นอน
ชื่อ Event | รายละเอียดการติดตาม | ไอเดียการสร้าง Custom Audience | แสดงในหน้า | Custom Parameters |
---|---|---|---|---|
PageView | ลูกค้าที่เข้าชมหน้าใดหน้าหนึ่งบนเว็บไซต์ | ลูกค้าที่เข้าหน้าวิธีการสั่งซื้อ, ลูกค้าที่ตรวจสอบออเดอร์ของตัวเอง, ลูกค้าที่เข้าชมเว็บไซต์ของเรามากกว่า 3 หน้าขึ้นไป | ทุกหน้า | ไม่มี |
FirstVisit | ระบุการเข้าเว็บไซต์ครั้งแรกของลูกค้าแต่ละท่านว่าเข้ามาเมื่อไรและเข้าผ่านช่องทางไหน | ลูกค้าที่เข้าเว็บเราครั้งแรกจาก Google search ในเดือน 7, ลูกค้าที่เข้าเว็บเราครั้งแรกจากการพิมพ์ URL ตรง ๆ, ลูกค้าที่เข้าเว็บเราครั้งแรกจากแคมเปญ Google Ads, ลูกค้าที่เข้าเว็บเราครั้งแรกจาก Facebook | ทุกหน้า | acquisition_date, source, acquisition_month, landing_page, medium, campaign |
ViewHome | ลูกค้าที่เข้าชมหน้า Homepage ของร้าน | ลูกค้าที่เข้าชม Homepage หน้าร้านใน 7 วันที่ผ่านมา | Homepage | from |
ViewCategory | ลูกค้าที่เข้าชมหน้าหมวดหมู่สินค้า | ลูกค้าที่เข้าชมหน้าหมวดหมู่สินค้าทั้งหมด, ลูกค้าที่เข้าชมหมวดสินค้าใดหมวดหนึ่งในร้านเมื่อ 15 วันที่ผ่านมา | หน้าหมวดหมู่สินค้า | category_name, from, category_id, category_main |
ViewProduct | ลูกค้าที่เข้าชมหน้าสินค้า | ลูกค้าที่เข้าชมสินค้าตัวไหนก็ได้ในร้าน, ลูกค้าที่เข้าชมสินค้าตัวใดตัวหนึ่งในร้านเมื่อ 28 วันที่ผ่านมา | หน้าสินค้า | content_type, content_category, from, product_id, category_name, currency, product_catalog_id, value, content_name, content_ids, category_main, category_id |
ScrollTracking | ใช้วัดระดับความสนใจของลูกค้า - แนะนำใช้ร่วมกับ ViewProduct หรือ ViewBlog | ลูกค้าที่เลื่อนชมสินค้า A จนถึง 75% ของหน้า, ลูกค้าที่อ่าน Blog Post B จนจบ | หน้าสินค้า, หน้า Blog | scroll_depth [25%, 50% 75%, 100%] |
AddToCart | ลูกค้าที่เพิ่มสินค้าลงตะกร้า - ส่งข้อมูลไปทาง Pixel และ Server side API | ลูกค้าที่เพิ่มสินค้าจากหมวดหมู่ A, ลูกค้าที่เพิ่มสินค้ามากกว่า 3 ชิ้นชึ้นไป, ลูกค้าที่เพิ่มสินค้ามูลค้ามากกว่า 5,000 บาทลงตะกร้า | หน้าสินค้า | content_type, content_category, from, product_id, category_name, currency, product_catalog_id, value, content_name, content_ids, category_main, category_id |
AddToWishlist | ลูกค้าที่เพิ่มสินค้าลง Wishlist | ลูกค้าที่เพิ่มสินค้าลง Wishlist แต่ยังไม่เคยสั่งซื้อ, ลูกค้าที่เพิ่มสินค้าลง Wishlist มากกว่า 3 ครั้งแต่ยังไม่เคยสั่งซื้อ | หน้าสินค้า | content_type, content_category, from, category_name, currency, product_catalog_id, value, content_name, content_ids, category_main, category_id |
InitiateCheckout | ลูกค้าที่เริ่มเข้าสู่กระบวรการสั่งซื้อ | ลูกค้าที่เริ่มสั่งซื้อออเดอร์ที่มากกว่า 1,500 บาทขึ้นไปแต่ยังไม่ได้สั่งซื้อจนสำเร็จใน 28 วันที่ผ่านมา | หน้า Checkout | value, contents, num_items, currency, from |
AddShippingMethod | ลูกค้าที่เพิ่มช่องทางการจัดส่งระหว่างการสั่งซื้อ | หน้า Checkout | shipping_method, shipping_method_name | |
AddPaymentMethod | ลูกค้าที่เพิ่มช่องทางการชำระเงินระหว่างการสั่งซื้อ | ลูกค้าที่ไม่ได้เลือกสั่งซื้อสินค้าแบบ COD | หน้า Checkout | payment_method, payment_method_name |
Purchase | ลูกค้าที่ทำการสั่งซื้อ (ส่งข้อมูลจาก Pixel) / ข้อมูลออเดอร์จาก BentoPOS และ MarketPlace (ส่งข้อมูลจาก Conversion API) | หน้า Invoice (เฉพาะครั้งแรก) | content_type, num_items, from, order_id, payment_method_name, currency, value, content_name, shipping_method, shipping_method_name, payment_method, contents | |
ViewInvoices | ลูกค้าที่เข้าชมหน้า Invoice | หน้า Invoice | content_type, num_items, from, order_id, payment_method_name, currency, value, content_name, shipping_method, shipping_method_name, payment_method, contents | |
ViewInvoicesPayment | ลูกค้าที่แจ้งการโอนเงินจากหน้า Invoice - สำหรับออเดอร์โอนเงินเท่านั้น | หน้า Invoice | content_type, num_items, from, order_id, payment_method_name, currency, value, content_name, shipping_method, shipping_method_name, payment_method, contents | |
ViewInvoicesDelivery | ลูกค้าที่เข้าหน้า Invoice ของออเดอร์ที่อยู่ในสถานะจัดส่งจากคลังแล้ว | หน้า Invoice | content_type, num_items, from, order_id, payment_method_name, currency, value, content_name, shipping_method, shipping_method_name, payment_method, contents | |
ViewBlogCategory | ลูกค้าที่เข้าชมหน้าหมวดหมู่ Blog | หน้าหมวดหมู่ Blog | blog_category_id, from | |
ViewBlog | ลูกค้าที่เข้าชมหน้า Blog | หน้า Blog | blog_id, from | |
Search | ลูกค้าที่เข้าชมหน้า Blog | หน้า Blog | query, search_string, from | |
ViewProductSearch | ลูกค้าที่ดูผลการค้นหาของสินค้า | หน้า Blog | query, search_string, from | |
ViewBlogSearch | ลูกค้าที่ดูผลการค้นหาของ Blog | หน้า Blog | query, search_string, from |
ทำความรู้จัก Facebook Pixel Helper
แล้วถ้าเราอยากจะดูละว่าเว็บไซต์ของเราส่งข้อมูลอะไรกลับไปให้ Facebook บ้าง? ข้อมูลที่ส่งกลับไปมันส่งไปถูกต้องไหม? Facebook Pixel Helper ช่วยได้ครับ!
Facebook Pixel Helper คือ Extension ที่ติดตั้งบน Google Chrome ครับ มันจะช่วยเราดูว่าเว็บไซต์ของเราติดตั้ง Pixel ไว้เรียบร้อยดีไหม แล้วข้อมูลที่ตัวเว็บส่งกลับไปให้ Facebook ถูกต้องหรือเปล่า โดยตัวของมันจะทำการสแกนหน้าเว็บอัตโนมัติครับ และเมื่อมันสามารถตรวจจับ Pixel ได้ ไอคอนของมันก็จะเป็นสีน้ำเงิน และเราสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดได้ครับว่ามันมี Event อะไรส่งกลับไปให้ Facebook บ้าง
จากภาพด้านบนจะเห็นว่าเว็บไซต์ร้านค้าของ PojiMojiMall มีการติดตั้ง Pixel ไว้ 2 ชุด แต่ละชุดจะส่งข้อมูล Event กลับไปให้ Facebook อยู่ 3 ตัวคือ FirstVisit, PageView, และ ViewHome เมื่อเราทำการแตก Event ที่ชื่อ FirstVisit ออกมาก็จะพบว่า FirstVisit มีการส่ง Custom parameters ที่มีชื่อว่า acquisition_date, source, acquisition_month, landing_page, medium, และ campaign ซึ่งเราสามารถใช้ค่า (Value) ที่ส่งกลับไปให้ Facebook เพื่อสร้าง Custom Audience ต่อได้
ตัวอย่างการสร้าง Custom Audience ด้วย FirstVisit
เวลาเราทำการสื่อสาร มันจะมีอยู่ 2 เรื่องที่ต้องให้ความสนใจ คือ 1. เราคุยกับใคร (Targeting) และ 2. เนื้อหาที่เราใช้พูดคุยกับเค้า (Messaging) หากเราต้องการการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการสื่อสาร เราก็ควรแยก Message ให้สัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายที่เราจะคุยด้วย ... การสร้าง Custom Audience คือ การสร้าง Targeting แบบเฉพาะเจาะจงด้วยข้อมูลของลูกค้าที่เรามี ยิ่งเราสามารถเจาะจงลูกค้าได้มากเท่าไร เราก็สามารถใช้ Message ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของเราได้มากเท่านั้น
เมื่อคุณเข้าไป สร้าง Custom Audience บน Facebook Business Manager จะพบว่าในช่อง Events ของคุณจะมี Events ต่าง ๆ ที่ BentoWeb ดักจับพฤติกรรมของลูกค้าในร้านและส่งกลับมาเตรียมไว้ให้แล้ว และเมื่อคุณเลือกไปที่ FirstVisit แล้วกด Refine by ด้วย URL/Parameter ก็จะพบว่า Custom Parameters ทั้ง 6 ตัวที่เราส่งมาพร้อมกับ First Visit นั้นพร้อมใช้งาน
ในกรณีที่คุณต้องการสร้าง Custom Audience ของลูกค้าที่เข้าหน้าร้านของคุณครั้งแรกผ่านโฆษณา Google Ads คุณก็แค่ระบุ Value ของ medium หรือ campaign เข้าไป แค่ตั้งชื่อ Audience ก็พร้อมเอาไปใช้นำส่งโฆษณาแล้ว ... ง่ายมาก ๆ ใช่ไหมครับ ^^
พวกเราแนะนำให้คุณศึกษาขั้นตอนการใช้งานต่าง ๆ ดังต่อไปนี้เพิ่มเติมนะครับ:
การสร้าง Facebook custom audiences ด้วย BentoWeb
ติดตั้ง Facebook Pixel, สร้าง Facebook Catalog, เชื่อม Facebook Shop และ Messenger กับเว็บไซต์ของคุณ
สร้าง Facebook offline event conversion
Dynamic product retargeting: การสร้างแคมเปญโฆษณาแบบหลอกหลอนบน Facebook
อัปเดตเมื่อ: 27/01/2023
ขอบคุณ!